รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ใช้ในการเลือกตั้งที่จะถึง

รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ใช้ในการเลือกตั้งที่จะถึง

ขอบคุณภาพจาก www.matichon.co.th

????รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบันที่ใช้ในการเลือกตั้งที่จะถึง????

การเลือกตั้งระบบจัดสรรปันส่วนผสม ส.ส. ๕๐๐ คน แบ่งเป็น ส.ส.เขต ๓๕๐ คน และปาร์ตี้ลิสต์ ๑๕๐ คน

๓๕๐ ส.ส.แบ่งเป็น ๓๕๐ เขต คือเขตละ ๑ คน

บัตรเลือกตั้งใบเดียว

เข้าคูหาแล้ว กากบาทได้ครั้งเดียว ๑ คน ๑ คะแนน

นั่นคือ กากบาทผู้สมัคร ส.ส.คนไหน เท่ากับกากบาทให้พรรคนั้นด้วย

คะแนนคนหรือคะแนนพรรค จะเป็น “คะแนนสะสม” ของพรรคนั้นๆ รวมทั้งประเทศ

ปิดหีบและนับคะแนนเสร็จแล้ว……..

จะนำคะแนนทั้ง ๓๕๐ เขต ของทุกคน-ทุกพรรค ทั้งแพ้-ทั้งชนะ มานับรวมกัน

ได้เท่าไหร่ หารด้วย ๕๐๐

สมมุติ คะแนนรวมทั้ง ๓๕๐ เขตของทุกพรรคได้ ๔๐ ล้านเสียง

ก็เอา ๔๐,๐๐๐,๐๐๐ หารด้วย ๕๐๐ = ๘๐,๐๐๐

พรรคไหน ได้คะแนนรวมทั้งประเทศเท่าไหร่ ก็เอา ๘๐,๐๐๐ ไปหาร ได้ผลลัพธ์เท่าไหร่

นั่นคือ จำนวน ส.ส.ที่พรรคนั้น จะพึงมีได้ว่ากี่คน

สมมุติ ประชาธิปัตย์ได้ ๑๒,๐๐๐,๐๐๐ ล้านคะแนน ก็เอา ๘ หมื่นหาร ๑๒ ล้าน ประชาธิปัตย์จะพึงมี ส.ส.ได้ ๑๕๐

แต่ผลเลือกตั้งออกมา ประชาธิปัตย์ได้ ๑๒๐ คน

อยากรู้ว่า ประชาธิปัตย์จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์สักกี่คน?

ก็เอา ๑๕๐-๑๒๐ = ๓๐

หมายความว่า ประชาธิปัตย์ จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้สิลต์ ๓๐ คน รวมเป็น ๑๕๐ คน

แต่สมมุติ ผลเลือกตั้ง ประชาธิปัตย์ได้ ส.ส. ๑๖๐ คน ถือว่ามากกว่าเกณฑ์จะพึงมีได้ ๑๕๐ คนแล้ว

ฉะนั้น ประชาธิปัตย์จะไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เพิ่ม คงมี ๑๖๐ คนตามจำนวน ส.ส.เขตที่ได้เท่านั้น

อย่างเลือกตั้งปี ๒๕๕๔ เพื่อไทยได้ ๑๕ ล้านเสียง ได้ ส.ส.เขต ๒๐๔ คน แลกค่าเป็นปาร์ตี้ลิสต์ได้อีก ๖๑ คน รวมเป็น ๒๖๕ คน

เกินกึ่ง พรรคเดียวตั้งรัฐบาลพรรคเดียวได้เลย!

แต่เมื่อนำมาเข้าสูตรจัดสรรปันส่วนผสม ผลออกมา เพื่อไทยจะพึงมี ส.ส.ได้ ๑๖๓ คน

แต่จากการเลือกตั้ง เพื่อไทยได้ ส.ส.เขตถึง ๒๐๔ คน เรียกว่าคะแนนนิยมล้นเหลือไปตั้ง ๔๑ คน

ดังนั้น เพื่อไทยจะไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์ เหมือนอย่างที่ได้ในปี ๒๕๕๔ อีก ๖๑ คน

สรุป เพื่อไทยมี ส.ส.เพียง ๒๐๔ คน ในระบบเขตเท่านั้น!

นี่เป็นตัวเลขสมมุติกลมๆ ให้ดูกัน………

ที่อยากบอกคือ การเลือกตั้งตามรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน

ระบบ ๑ เขต ๑ ส.ส.จะไม่มีพรรคไหนได้ ส.ส.ถึงครึ่งในจำนวนเต็ม ๕๐๐ เพื่อเป็นพรรคเดียวได้ตั้งรัฐบาลเลย

เพราะยิ่งได้ ส.ส.เขตมาก ยิ่งไม่ได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์เลย

เลือกตั้ง กุมภา ๖๒ พรรคไหน “ทั้งประเทศ” ได้ซัก ๘ หมื่นคะแนน ถึงไม่ได้ ส.ส.เขตเลย

ก็จะได้ ส.ส.ปาร์ตี้ลิสต์แล้ว ๑ คน!

เมื่อไปดูมาตรา ๒๖๙ จะมี วุฒิสมาชิกจาก สนช.เลือกสรร ๒๕๐ คน

และมาตรา ๒๗๒ บอกว่า………

“ในระหว่างห้าปีแรกนับแต่วันที่มีรัฐสภาชุดแรกตามรัฐธรรมนูญนี้ การให้ความเห็นชอบบุคคลซึ่งสมควรได้รับแต่งตั้งเป็นนายกรัฐมนตรีให้ดำเนินการตามมาตรา ๑๕๙ เว้นแต่การพิจารณาให้ความเห็นชอบตามมาตรา ๑๕๙ วรรคหนึ่ง ให้กระทำในที่ประชุมร่วมกันของรัฐสภา และมติที่เห็นชอบการแต่งตั้งบุคคลใดให้เป็นนายกรัฐมนตรีตามมาตรา ๑๕๙ วรรคสาม ต้องมีคะแนนเสียงมากกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกทั้งหมดเท่าที่มีอยู่ของทั้งสองสภา”

ถอดความได้ว่า ส.ส.๕๐๐ + ส.ว.๒๕๐ = ๗๕๐ เสียง

กึ่งหนึ่งของสองสภาเท่ากับ ๓๗๕ เสียง

นั่นคือ ใครจะได้เป็นนายกฯ ต้องมีเสียงสนับสนุน ๓๗๖ เสียงขึ้นไป

เขียนชื่อ “?!?!?!?!?” ผู้มี ๒๕๐ เสียงตุนอยู่ในกระเป๋า

หาอีกแค่ ๑๒๕ เสียงในตลาดเลือกตั้ง ใส่กรอบทองแขวนข้างฝาไว้เลย

ว่านี่คือ “นายกฯ เลือกตั้ง” คนต่อไป!??????????????????????

ขอบคุณภาพจาก www.matichon.co.th